ข่าว

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

เทศกาลสงกรานต์


ในเทศกาลสงกรานต์ นอกจากการทำบุญข้าวแช่ แห่สงกรานต์ ปล่อยนกปล่อยปลาแล้วคนมอญยังมีประเพณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายอย่างพิธีสรงน้ำพระ เป็นพิธีส่วนหนึ่งที่ เกี่ยวเนื่องกับเทศกาลสงกรานต์ หลังจากทำบุญวันสงกรานต์แล้ว

พิธีสรงน้ำพระ จะถูกกำหนดขึ้นในโอกาสต่อมา ซึ่งชาวมอญบางกระดี่ได้กำหนดวันที่16,17 และ 18 เมษายน ของทุกๆปี ซึ่งพิธีจะแตกต่างจากคนไทยมาก คือ คนมอญทุกแห่งจะต้องจัดเตรียมสถานที่สรงน้ำพระที่มีลักษณะรูปแบบเหมือนกันหมด มีรางน้ำยาว ประมาณ6 วา ยื่นจากห้องน้ำและมีการตกแต่งอย่างสวยงาม เป็นรางน้ำ สำหรับให้ ชาวบ้านเทน้ำลงในรางไหลเข้าสู่ห้องน้ำ บางวัดจะมีถังไม้ขนาดใหญ่เพื่อรองรับน้ำไว้ และมีท่อจากถึงปล่อยน้ำให้ไหลออก เพื่อให้พระได้สรงน้ำภายในห้องน้ำได้สะดวกขึ้น การที่คนมอญต้องทำห้องน้ำและรางน้ำสำหรับการสรงน้ำพระ เนื่องจากเหตุผลดังนี้

1. เพื่อให้พระภิกษุสามเณรที่สรงน้ำนั้นดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะการสรงน้ำพระ พระท่านต้องผลัดเปลี่ยนสบง รวมทั้งการครองจีวรหลังสรงน้ำก็ทำได้อย่างเรียบร้อยเช่นกันไม่เป็นการผิดวินัยแต่อย่างใด
2. เพื่อให้พระภิกษุสามเณรได้สรงอย่างสะดวกในห้องน้ำ
3.เพื่อให้ชาวบ้านโดยเฉพาะสตรีได้สรงน้ำเฉพาะในสถานที่ที่ได้จัดไว้ให้ เนื่องจากพระสงฆ์มอญเคร่งครัดมากพิธีเริ่มจากการอัญเชิญพระพุทธรูปและทำพิธีบูชาพระรัตนตรัย จากนั้น ให้ชาวบ้านได้สรงน้ำพระพุทธรูปเป็นอันดับแรกและตามด้วยพระสงฒ์การสรงน้ำ ชาวบ้านที่เป็นชาย และหญิงจะแยกกันเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่เป็นหญิงจะถือขันน้ำรออยู่ใกล้ๆ รางน้ำ กลุ่มที่เป็นชายจะมีขันน้ำ น้ำอบและน้ำหอมผู้ชายจะไปนั่งรออยู่ที่ตรงทางเดินจาก ห้องสรงน้ำเป็นแนวตลอดสองฟากของการเดินจนหถึงศาลาการเปรียญ

วิธีสรงน้ำพระพุทธรูปหรือพระสงฆ์สามเณรนั้นจะมีคนให้สัญญาณด้วยการตบที่ฝาห้องน้ำ เมื่อได้ยินสมญาดังกล่าว ผู้ที่เป็นสตรีจะเทน้ำลงในรางน้ำจะไหลไปตามทางจนถึงที่พระ พุทธรูปหรือพระสงฆ์ เมื่อพระเสร็จพิธีการในห้องสรงน้ำแล้ว พระสงฆ์เดินขึ้นไปบนศาลาการเปรียญ ไปตามทางเดินที่มีชาวบ้านที่เป็นชายนั่งรออยู่สองข้าง เมื่ออัญเชิญพระพุทธรูป หรือพระสงฆ์สามเณรเดินตามทางดังกล่าว ชาวบ้านที่เป็นชายเหล่านั้นจะนำน้ำในขันเทรดที่เท้าพระ พร้อมกับพรมน้ำอบ น้ำหอมที่ฝ่ามือและที่เท้าพระ ถ้าเป็นพระ พุทธรูป ก็จะประพรมน้ำหอมที่พระพุทธรูปนั้นก่อนแล้วตามด้วยพระสงฆ์สามเณรตามลำดับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น