ข่าว

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

ธรรมชาติแสนสวย






ผืนดิน ต้นไม้ แหล่งน้ำ และท้องฟ้า

ร่วมสรรค์สร้างสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่

หากไม่มีสิ่งเหล่านี้โลกเราจะอยู่ได้อย่างไร

สิ่งมีชีวิตนั้นไซร้มอดมลายกลับลงสู่ผืนดิน













วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552

เหมือนกะคนเลยเนอะ


ยางม่ายมาว ฉานจะอาวอีกขวด

ภาพสัตว์ขำๆๆๆๆๆ

ของเขาดีจริงๆๆๆๆ

ขำขันคลายเครียด


น่ารักซะไม่มี ละ

วันนี้ถ้าชาติไทย


แม้ฟื้นตื่นขึ้นดู วิญญาณปู่คงเศร้าใจ เมื่อแผ่นดินรัก ที่ปกปักษ์ไว้ กลับกลายต้องแตกแยกกัน ไทยเคยอยู่ด้วยน้ำใจ ไทยเคยอยู่ด้วยสัมพันธ์ เลือดเราก็มีสีเดียวเท่านั้น เอาชนะกันทำไม
วันนี้ถ้าไร้ชาติไทยอยู่ แล้วเราจะอยู่ตรงไหน ศัตรูคงกลืนชาติเราง่ายดาย จะมีใครที่ไหนยำเกรง ยามศึกเรารบ ยามสงบเราไม่รบกันเอง แพ้ชนะก็เลือดไทยละเลง เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง พ่อก็เหนื่อยสุดหัวใจ แม่ก็อยากให้รักกัน ภาษาอะไร ก็ไทยเท่านั้น แผ่นดินแม่เดียวกันคือไทย ยามศึกเรารบ ยามสงบเราไม่รบกันเอง สู้กันไปก็เลือดไทยละเลง เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง เหนือก็ไทยอีสานก็ไทย เราโบกธงไทยเหมือนกัน ใต้ก็ไทยภาคกลางก็ไทย คนไทยคนไทยรัก
วันนี้ถ้าไร้ชาติไทยอยู่ ลูกเราจะอยู่ตรงไหน ชนะอยู่บนซากธงชาติไทย จะมีใครที่ไหนยำเกรง ยามศึกเรารบ ยามสงบเราต้องรวมพลัง รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยอีกครั้ง ร้องเพลงชาติดังดัง ด้วยความสามัคคี คนไทยรักกัน คนไทยไม่ทะเลาะกัน คนไทยรักกัน คนไทย คนไทยรักกัน คนไทยรักกัน คนไทยไม่ทะเลาะกัน คนไทยรักกัน เราคนไทยรักกัน ยามศึกเรารบ ยามสงบเราต้องรวมพลัง รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยอีกครั้งร้องเพลงชาติดังดัง...ด้วยความสามัคคี

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

สัจจะธรรม



ดูภาพแล้วคิดเอานะครับพี่น้อง ว่าจะเป็นย่างงงงง งั้ยยยยยย ครับพี่น้อง

ตายลูกเดียว

เซ็ง / เบื่อ.....เหตุการณ์บ้านเมือง ดูดอกไม้ดิกว่า





สัวสดีครับ เห็นข่าว สถานการณ์
แล้วหลายคนใจคอ ไม่มี รวมท้งผมเอง หวั่นไหวพอสมควร
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรามาดูดอกกล้วยไม้สวย ๆ ดีกว่า
ครับ เอาเป็นว่าดูกัน 3 ดอก เป็นดอกกล้วยไม้ตระกูลหวาย
จากร้านขายต้นไม้งานถนนคนเดิน เมื่อเดือนที่แล้ว แก้เบื่อนะ ครับ

แสงธรรมส่องกระจ่าง

If you tell the truth,you don't have to remember anything
ขอให้แสงธรรมส่องกระจ่างในใจคน

งานเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้าและก๊าซ

งานเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้าและก๊าซ

การเชื่อม (WELDING) คือการต่อโลหะให้ติดกัน โดยให้ความร้อนจนโลหะนั้น หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน โดยจะใช้ลวดเชื่อม หรือไม่ใช้ก็ได้ และจะใช้แรงกดดัน หรือไม่ก็ได้
กระบวนการเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อม
การเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อม (SMAW) คือกระบวนการเชื่อมที่อาศัยความร้อนจากการอาร์คระหว่าง ลวดเชื่อมโลหะ
มีสารพอกหุ้มกับชิ้นงาน ทำให้ลวดเชื่อมและชิ้นงานบริเวณการอาร์คหลอมละลายรวมตัวกันเป็นแนวเชื่อม และสารพอกหุ้มจะเกิดเป็นก๊าซ และสแล็ค ปกคลุมแนวเชื่อมจากบรรยากาศภายนอก
เครื่องมือ และอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในกระบวนการเชื่อมนี้ มี 1. เครื่องเชื่อม 2. สายไฟเชื่อม3. หัวจับลวดเชื่อม4. คีมจับสายดิน 5. ลวดเชื่อม
ในปัจจุบัน การนำไปใช้งาน กระบวนการเชื่อมนี้เป็นที่นิยมมาก สามารถเชื่อมได้ทั้งโลหะจำพวกเหล็กและที่ไม่ใช่เหล็ก เกือบทุกชนิดที่มีใช้ในงานอุตสาหกรรมปัจจุบัน ซึ่งสามารถเชื่อมโลหะบางตั้งแต่ 1.2 มม.ขึ้นไปโดยไม่จำกัดความหนา (หนาเกิน 6มม. ขึ้นไปต้องบากขอบงาน และใช้เทคนิคการเชื่อมหลายแนว) ในทุกตำแหน่งท่าเชื่อมงานที่ใช้ เช่น งานโครงสร้างอาคารงานต่อเรือ สะพาน งานซ่อมสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นต้น การเริ่มต้นอาร์คและควบคุมแนวเชื่อม
1. ปรับเครื่องเชื่อม - ขั้วไฟ : DCSP (E 6012) : AC (E 6013) - กระแสไฟ 70 - 90 แอมป์ (2.6 มม.) 80 - 100 แอมป์ (3.2 มม.)2. เตรียมงาน - ทำความสะอาด และตกแต่งชิ้นงาน - ขีดเส้นตามรูป แล้วตอกนำศูนย์ห่าง - จัดวางชิ้นงานบนโต๊ะงานในตำแหน่งทำราบ3. เริ่มต้นอาร์ค มี 2 วิธีวิธีที่ 1 วิธีการขีดหรือเขี่ย - ถือลวดเชื่อมเอียงไปตามแนวที่จะขีดแล้วแตะปลายลวดเชื่อมลงบนชิ้นงานเบา ๆ พร้อมกับลากไปตามผิวงานช้า ๆ - ยกลวดเชื่อมขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดการอาร์ควิธีที่ 2 วิธีเคาะ หรือแตะ - ถือลวดเชื่อมในตำแหน่งตั้งฉากกับชิ้นงานกดลวดเชื่อมลงไปเคาะ หรือแตะกับชิ้นงานแล้วยกขึ้น - ยกลวดเชื่อมขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดการอาร์คข้อควรระวัง + ลวดเชื่อมจะติดกับชิ้นงาน + เมื่อลวดเชื่อมติดชิ้นงานให้โยกลวดเชื่อมไปทางซ้ายขวา หรือปิดเครื่องเชื่อมแล้วโยกออก อย่าปลดลวดเชื่อมจากที่จับลวดเชื่อม ทันทีจะเกิดการอาร์คที่ปากจับลวดเชื่อม4. เชื่อม - เมื่อเกิดการอาร์ค แล้วเคลื่อนลวดเชื่อมมาที่ขอบงานบริเวณที่จะเชื่อม - ยกลวดเชื่อมให้ระยะอาร์คประมาณ2 เท่าความโตลวดเพื่ออุ่นชิ้นงาน - กดระยะอาร์คลงเท่าความโตลวดพร้อมกับเอียงลวดเชื่อมเป็นมุมประมาณ 5 - 15 - สร้างบ่อหลอมละลายกว้างประมาณ1 1/2 - 2 เท่าความโตลวดเชื่อมแล้วค่อย ๆ เดินลวดเชื่อมอย่างคงที่สม่ำเสมอ ได้ยาวประมาณ 40 มม.หยุดการเชื่อมข้อสังเกต + ถ้าการอาร์คค่อย และบ่อหลอมละลายแคบแสดงว่าตั้งกระแสต่ำไป + ถ้าการอาร์ครุนแรงมากบ่อหลอมละลายโตมากจนควบคุมไม่ทันแสดงว่าตั้งกระแสสูงไป - เคาะสแลคออกจากแนวเชื่อมทำความสะอาด - เริ่มเชื่อมเหมือนเดิม บนเส้นเดียวกันที่เว้นไป 1 ช่อง เชื่อมยาวประมาณ 40 มม. - หมุนชิ้นงานกลับทาง แล้วเริ่มต้นเชื่อมแนวแรก (เชื่อมจนเต็มแผ่นงาน) - เริ่มต้นเชื่อมในช่องว่าง โดยเริ่มต้นอาร์คที่ประมาณ 5 มม. บนแนวเชื่อมหลังแอ่งปลายแนวเชื่อมเมื่ออุ่นงานแล้วเคลื่อนลวดเชื่อมมาที่แอ่งปลาย แนวเชื่อมลดระยะอาร์คลงมาแล้วเดินแนวจนชนแนวเชื่อมต่อไป (เชื่อมจนเต็มแผ่น)ข้อควรระวัง + เมื่อเชื่อมไปหลาย ๆ แนวงานจะร้อนแนวเชื่อมจะเลาะควรจุ่มน้ำบ้างหมายเหตุ + ตรวจสอบแนวเชื่อม โดยตรวจกับครูทุกแนวที่เชื่อมเสร็จ5. ตรวจสอบความเรียบร้อยของชิ้นงาน 1. ขนาดแนวเชื่อม ความสูงความกว้าง2. ลักษณะแนวเชื่อม - ความเรียบสม่ำเสมอ - จุดเริ่มต้นเชื่อม รอยต่อ3. การทำความสะอาด และตกแต่งชิ้นงาน - การทำความสะอาด และร่างแบบ - การขจัดสแลค เม็ดโลหะกระเด็น

วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

เทศกาลสงกรานต์


ในเทศกาลสงกรานต์ นอกจากการทำบุญข้าวแช่ แห่สงกรานต์ ปล่อยนกปล่อยปลาแล้วคนมอญยังมีประเพณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายอย่างพิธีสรงน้ำพระ เป็นพิธีส่วนหนึ่งที่ เกี่ยวเนื่องกับเทศกาลสงกรานต์ หลังจากทำบุญวันสงกรานต์แล้ว

พิธีสรงน้ำพระ จะถูกกำหนดขึ้นในโอกาสต่อมา ซึ่งชาวมอญบางกระดี่ได้กำหนดวันที่16,17 และ 18 เมษายน ของทุกๆปี ซึ่งพิธีจะแตกต่างจากคนไทยมาก คือ คนมอญทุกแห่งจะต้องจัดเตรียมสถานที่สรงน้ำพระที่มีลักษณะรูปแบบเหมือนกันหมด มีรางน้ำยาว ประมาณ6 วา ยื่นจากห้องน้ำและมีการตกแต่งอย่างสวยงาม เป็นรางน้ำ สำหรับให้ ชาวบ้านเทน้ำลงในรางไหลเข้าสู่ห้องน้ำ บางวัดจะมีถังไม้ขนาดใหญ่เพื่อรองรับน้ำไว้ และมีท่อจากถึงปล่อยน้ำให้ไหลออก เพื่อให้พระได้สรงน้ำภายในห้องน้ำได้สะดวกขึ้น การที่คนมอญต้องทำห้องน้ำและรางน้ำสำหรับการสรงน้ำพระ เนื่องจากเหตุผลดังนี้

1. เพื่อให้พระภิกษุสามเณรที่สรงน้ำนั้นดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะการสรงน้ำพระ พระท่านต้องผลัดเปลี่ยนสบง รวมทั้งการครองจีวรหลังสรงน้ำก็ทำได้อย่างเรียบร้อยเช่นกันไม่เป็นการผิดวินัยแต่อย่างใด
2. เพื่อให้พระภิกษุสามเณรได้สรงอย่างสะดวกในห้องน้ำ
3.เพื่อให้ชาวบ้านโดยเฉพาะสตรีได้สรงน้ำเฉพาะในสถานที่ที่ได้จัดไว้ให้ เนื่องจากพระสงฆ์มอญเคร่งครัดมากพิธีเริ่มจากการอัญเชิญพระพุทธรูปและทำพิธีบูชาพระรัตนตรัย จากนั้น ให้ชาวบ้านได้สรงน้ำพระพุทธรูปเป็นอันดับแรกและตามด้วยพระสงฒ์การสรงน้ำ ชาวบ้านที่เป็นชาย และหญิงจะแยกกันเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่เป็นหญิงจะถือขันน้ำรออยู่ใกล้ๆ รางน้ำ กลุ่มที่เป็นชายจะมีขันน้ำ น้ำอบและน้ำหอมผู้ชายจะไปนั่งรออยู่ที่ตรงทางเดินจาก ห้องสรงน้ำเป็นแนวตลอดสองฟากของการเดินจนหถึงศาลาการเปรียญ

วิธีสรงน้ำพระพุทธรูปหรือพระสงฆ์สามเณรนั้นจะมีคนให้สัญญาณด้วยการตบที่ฝาห้องน้ำ เมื่อได้ยินสมญาดังกล่าว ผู้ที่เป็นสตรีจะเทน้ำลงในรางน้ำจะไหลไปตามทางจนถึงที่พระ พุทธรูปหรือพระสงฆ์ เมื่อพระเสร็จพิธีการในห้องสรงน้ำแล้ว พระสงฆ์เดินขึ้นไปบนศาลาการเปรียญ ไปตามทางเดินที่มีชาวบ้านที่เป็นชายนั่งรออยู่สองข้าง เมื่ออัญเชิญพระพุทธรูป หรือพระสงฆ์สามเณรเดินตามทางดังกล่าว ชาวบ้านที่เป็นชายเหล่านั้นจะนำน้ำในขันเทรดที่เท้าพระ พร้อมกับพรมน้ำอบ น้ำหอมที่ฝ่ามือและที่เท้าพระ ถ้าเป็นพระ พุทธรูป ก็จะประพรมน้ำหอมที่พระพุทธรูปนั้นก่อนแล้วตามด้วยพระสงฆ์สามเณรตามลำดับ

นางสงกรานต์


จากตำนานเล่าถึงท้าวกบิลพรหมแพ้พนันธรรมบาลกุมาร ต้องตัดเศียรออกบูชาธรรมบาลกุมารตามสัญญา แต่เนื่องจากพระเศียรของพระองค์ตกไปอยู่ที่ใด ก็จะเป็นอันตรายต่อที่นั้นไม่ว่าจะเป็นบนอากาศ บนดินหรือในน้ำ ดังนั้น ธิดาทั้งเจ็ดจึงต้องนำพานมารองรับ และนำไปประดิษฐานไว้ในถ้ำคันธชุลี ณ เขาไกรลาส ครั้นถึงกำหนด ๓๖๕ วัน ซึ่งโลกสมมุติว่าเป็นปีหนึ่งเวียนมาถึงวันมหาสงกรานต์ เทพธิดาทั้งเจ็ดก็จะทรงพาหนะต่างๆผลัดเวรกันมาเชิญพระเศียรของบิดาออกแห่ โดยที่เทพธิดาทั้งเจ็ดนี้ปรากฏในวันมหาสงกรานต์เป็นประจำ จึงได้ชื่อว่า “นางสงกรานต์” ส่วนท้าวกบิลพรหมนั้น โดยนัยก็คือ พระอาทิตย์ นั่นเอง นางสงกรานต์ของแต่ละวัน จะมีนาม อาหาร อาวุธ และสัตว์ที่เป็นพาหนะ ต่างๆ กันดังต่อไปนี้

วันอาทิตย์ ชื่อ ทุงษ ทัดดอกทับทิม เครื่องประดับปัทมราค ภักษาหารผลมะเดื่อ อาวุธขวาจักร ซ้ายสังข์ พาหนะครุฑ

วันจันทร์ ชื่อ โคราค ทัดดอกปีบ เครื่องประดับมุกดา ภักษาหารน้ำมัน อาวุธขวาพระขรรค์ ซ้ายไม้เท้า พาหนะเสือ

วันอังคาร ชื่อ รากษส ทัดดอกบัวหลวง เครื่องประดับโมรา ภักษาหารโลหิต อาวุธขวา ตรีศูล ซ้ายธนู พาหนะสุกร

วันพุธ ชื่อ มัณฑา ทัดดอกจำปา เครื่องประดับไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย อาวุธขวาเข็ม ซ้ายไม้เท้า พาหนะลา

วันพฤหัสบดี ชื่อ กิริณี ทัดดอกมณฑา เครื่องประดับมรกต ภักษาหารถั่วงา อาวุธขวาขอ ซ้ายปืน พาหนะช้าง

วันศุกร์ ชื่อ กิมิทา ทัดดอกจงกลนี เครื่องประดับบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำว้า อาวุธขวาพระขรรค์ ซ้ายพิณ พาหนะกระบือ

วันเสาร์ ชื่อ มโหทร ทัดดอกสามหาว เครื่องประดับนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย อาวุธขวาจักร ซ้ายตรีศูล พาหนะนกยูง

ภาพทหารดวลปืนกับประชาชนอย่างดุเดือด

อาวุธพร้อมมือ โล่ก้อพร้อม ปืนก้อพร้อม(ฉีดจ้า) โอ๊ะๆๆๆๆ ฉีดกันกระจายเลยเพ่


ประชาขนควลปืนกับทหารอย่างเมามันด้วยปิน(ปืนฉีดน้ำนะ) แหมเปียกทั้งตัวเลย
ดูพี่ พี่ทหารตั้งท่าเตรียมพร้อมกับการดวลปืน (ฉีดน้ำ) นาน ๆๆๆๆๆ จะเห็นภาพ
แบบนี้ เครียดมาหลายวันแล้วเนอะ

วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2552

วิชาการจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศ (สรุปคร้งที่ 4)

สำหรับการเรียนในสัปดาห์นี้อาจารย์นำงานBlog ของนักศึกษา โดยการสุ่มเปิดดูงาน สรุปว่าผู้เรียนขาดการฝึกฝนในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ทำให้เกิดการเรียนรู้น้อย จึงต้องมีการพัฒนาตัวบุคคลให้มีความรู้มากขึ้น และอธิบายถึงการนำสื่อต่าง ๆ ช่วยในการเรียนการสอน จากนั้นอาจารย์อภิปรายเนื้อหาการเรียนบทที่ 5-8 จนจบเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานกับการพัฒนาระบบนวัตกรรม โดยการเรียนในช่วงนี้เป็นการเรียนที่ให้นักศึกษาตั้งคำถามตามเนื้อหาที่ผู้สอนได้บรรยาย โดยมีเกณฑ์ให้คะแนน คือ ถามคำถาม จะให้ 4 คะแนน ตอบคำถามจะให้ 6 คะแนน ผู้เรียนสนุกสนานในการถามและตอบ (ผู้สอนใช้จิตวิทยาการสอน เรื่องการเสริมแรง ช่วยการสอนนะนี่)
ก่อนจบการเรียนอาจารย์ฝากงานให้นักศึกษาทำ เป็นการอธิบายการประยุกต์ใช้นวัตกรรมกับการศึกษา โดยบูรณาการ การจัดการระบบสารสนเทศที่ทันสมัย หรือ การสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาของชุมชน ส่งวันที่ 29 เมษายน 2552 นี้

วิชาการจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศ (สรุปคร้งที่ 3)

การเรียนคร้งที่ 3 เป็นการเรียนเกี่ยวกับการทำบล็อก อาจารย์ได้มอบหมายให้ทำบล็อกเกี่ยวกับภาพความประทับใจ และเขียนบรรยายในบล็อก มีประวัติส่วนตัว ทำคลิปแนะนำบอกความรู้สึกที่เลือกเรียนร.ภ.สวนดุสิต ศูนย์หัวหิน สำหรับการเรียนในครั้งนี้เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าไม่เคยทำ จึงต้งใจฟังข้นตอนการทำบล็อกจากอาจารย์ แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ทำให้เกิดอุปสรรคในเรื่องการสมัครเข้าทำบล็อก เพราะการสมัครยากมากกกกกกกกกกกกก แต่ก็ได้คำแนะนำจากอาจารย์และเพื่อนที่เรียน ซึ่งเขาก็เข้าใจว่าเราไม่เก่งทางนี้เท่าไหร่(แต่ถ้างานซ่อมผมไม่เกี่ยง) สรุปว่าผมก็สมัครทำบล็อกสำเร็จ สิ่งที่ได้รับจากเรื่องนี้คือ เทคโนโลยียังมีข้อผิดพลาดได้เหมือนกัน เหมือนสุภาษิตที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า และผมก็ทำงานที่อาจารย์มอบหมาย ถึงแม้รูปแบบจะยังไม่ค่อยสวย เราค่อย ๆ ฝึก เดี๋ยวก็เก่ง เนอะ

วิชาการจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศ (สรุปคร้งที่ 2)

สำหรับการเรียนคร้งที่ 2 เป็นการเรียนเกี่ยวกับระบบสารสนเทศทางการศึกษา และ เทคโนโลยีสำหรับสารสนเทศทางการศึกษา อาจารย์ผู้สอนบรรยายและให้เข้ากลุ่มโดยความสมัครใจ โดยกลุ่มของข้าพเจ้าได้รับหัวข้อวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยการประชุมกลุ่ม เพื่อตกลงวิธีการนำเสนอ สรุปว่านำเสนอโดยการแสดงบทบาทสมมติในรูปแบบละคร สมาชิกในกลุ่มทุกคนมีหน้าที่กัน แต่ละคนต่างฝึกซ้อมบทของตนเอง เพี่อนำเสนอแล้วเพื่อนๆเข้าใจ จากกิจกรรมในคร้งนี้ได้รับสิ่งดีๆในเรื่องความร่วมมือ การระดมความคิด และความสมัครสมานสามัคคี(คิดหลายคนดีกว่าคิดคนเดียว ครับท่าน)

วิชาการจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศ (สรุปคร้งที่ 1)

การเรียนคร้งที่ 1 วันนี้เป็นการเรียนวิชานี้เป็นชั่วโมงแรก เจอกับอาจารย์ที่มากด้วยความรู้ความสามารถ อาจารย์บรรยายถึงเกณฑ์การให้คะแนน นอกจากนี้ได้รับความรู้เกี่ยวกับระบบสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูล วันนี้เรียนถึงสองบทแน่ะ ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารอาจารย์ได้แบ่งกลุ่มให้นักศึกษาได้ช่วยกันทำงาน พร้อมรับหัวข้องาน ในกลุ่มช่วนกันวางแผน แบ่งหน้าที่ และระดมความคิดในงานที่ได้รับมอบหมาย งานจึงสำเร็จด้วยสมาชิกในกลุ่มช่วยกันทำ พร้อมส่งตัวแทนนำเสนอผลการอภิปรายกลุ่ม

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552

ประวัติส่วนตัว




ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นายสุรจิตร สุขสีดา
ชื่อเล่น ครูนู๋
อาชีพ รับราชการ
สถานที่ โรงเรียนชัยเกษมวิทยา อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
การศึกษา:
ประถมศึกษา โรงเรียนวัดดอนยางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
มัธยมศึกษา โรงเรียนบางสะพานวิทยา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ปริญญาตรี วิทยาลัยครูเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
ปัจจุบัน กำลังศึกษาระดับปริญญาโท สาขาบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
การทำงาน:
โรงเรียนบ้านโป่งบริหารธุรกิจ จังหวัดราชาบุรี (เอกชน 5 ปี)
โรงเรียนหนองวัวซอพิทยาคม จังหวัดอุดรธานี (รับราชการ 2 ปี)
โรงเรียนชัยเกษมวิทยา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงปัจจุบัน